ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรด้วยการตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้าน

อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน

อันตรายจากไฟฟ้าป้องกันได้ด้วยวิธีตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านที่ควรรู้

ระบบไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใช้งานอยู่ตลอดทุกวัน และเพื่อความปลอดภัย การตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านเป็นประจำถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่มองว่าการตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้านด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อพูดถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องยากและไกลตัว ทั้งตัวระบบไฟฟ้ายังมีความซับซ้อน แต่ความจริงทุกคนสามารถตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านได้ด้วยตัวเอง ในบทความนี้ YLN Electric จะพาทุกคนไปดูวิธีตรวจเช็กระบบไฟฟ้า
เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน

ทำไมต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้าน แล้วต้องตรวจสอบบ่อยแค่ไหนถึงพอ

หากถามว่าทำไมต้องตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้าน? คำตอบคือเพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าในบ้านอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานจริง เพราะการใช้สายไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ โดยควรทำเป็นประจำทุก 3 – 6 เดือน
ที่สำคัญถ้าตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านแล้วพบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านเสื่อมสภาพ อย่างสายไฟชำรุด ปลั๊กไฟเสีย หรือหลอดไฟติด ๆ ดับ ๆ ควรต้องหาซื้อชุดหลอดไฟ LED มาเปลี่ยน เพื่อแสงสว่างที่เพียงพอในตอนกลางคืน และเพื่อความปลอดภัย

อันตรายจากอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านช่วงหน้าร้อน หน้าฝน มีอะไรบ้าง

หลายคนอาจไม่รู้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านก็สามารถเกิดอาการ Overheat ได้เช่นเดียวกัน อย่างสายไฟภายในบ้านที่เกิดความร้อนสะสมจากการใช้งานมานาน ก็อาจเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้หรือเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งนอกจากสายไฟแล้ว กระทั่งปลั๊กไฟหรือตู้ไฟที่ถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องก็มีโอกาสเกิดอาการ Overheat ได้เช่นเดียวกัน 

ขณะเดียวกันหน้าฝนก็เป็นอีกช่วงเวลาที่ต้องระวังอันตรายจากอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เพราะมีปัจจัยก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

  • ความชื้นอากาศภายในบ้านสูงจึงอาจทำให้สายไฟชำรุดหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตได้
  • มีน้ำฝนเข้าสู่ระบบไฟฟ้าของบ้านจนเกิดอันตรายจากไฟฟ้าช็อตหรือไฟฟ้าลัดวงจร
  • การใช้งานไม่ถูกต้องในช่วงฝนตกหรือเกิดพายุที่สภาพอากาศเต็มไปด้วยชื้นสูง หรือมีโอกาสเสี่ยงที่น้ำฝนเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านได้เช่นกัน

มาถึงตรงนี้เห็นได้ว่า อันตรายจากอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหน้าร้อนและหน้าฝน ดังนั้นเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งสาเหตุอันดับต้น ๆ ของเพลิงไหม้ในบ้าน การตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านไม่ควรละเลย

อยากตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้าน มีจุดไหนที่ต้องเช็กเพื่อความปลอดภัย

การตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้านด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงต้องรู้ว่ามีอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านแต่ละจุดมีวิธีการตรวจสอบอย่างไร? ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาไฟรั่ว ไฟช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจร ตาม YLN Electric ร้านขายส่งอุปกรณ์ไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้าคุณภาพครบวงจร มาดูจุดที่ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านกัน

เริ่มต้นกันที่ตู้ควบคุมไฟฟ้าหรือตู้โหลดไฟฟ้า เป็นจุดรวมการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมและป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าที่ประกอบไปด้วยเซอร์กิตเบรกเกอร์เมน อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วไฟดูด และเซอร์กิตเบรกเกอร์ย่อย ดังนั้นเวลาตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านควรเช็กที่การเดินสายไฟของตู้ควบคุมไฟฟ้าว่ามีรอยแตกหรือรอยร้าวตรงจุดไหนหรือไม่? หากตรวจพบการชำรุดแนะนำให้รีบติดต่อช่างไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญมาดำเนินการแก้ไขทันที เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ไฟดูด และไฟรั่วที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับการตรวจเช็กมิเตอร์ไฟฟ้า ควรเริ่มต้นตรวจสอบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าถูกติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่ สายไฟที่ต่อเข้ามิเตอร์ทั้งที่ต่อเข้าและออกต้องไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป นอกจากนี้สายไฟที่ต่อเข้ามิเตอร์ต้องไปพาดผ่านต้นไม้หรืออยู่บริเวณที่ใช้งานเป็นประจำ เพราะถ้าไฟรั่วอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้

ที่สำคัญการตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้านตรงจุดนี้ ยังทำให้คุณรู้ว่ามีกระแสไฟรั่วที่จุดใดภายในบ้าน เพียงปิดสวิตช์ไฟทุกจุด รวมถึงถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดออก แล้วค่อยดูที่มิเตอร์ว่าเฟืองเหล็กหมุนอยู่หรือไม่ หากหมุนอยู่แสดงว่ามีกระแสไฟรั่ว

แม้สายไฟจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีอายุการใช้งานยาว แต่ก็ต้องหมั่นดูแลและตรวจสอบเป็นประจำ เพราะมีโอกาสชำรุดจากการถูกสัตว์กัดแทะหรือเปื่อยกรอบจากการใช้งาน ดังนั้นเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไฟรั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจร ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านดังนี้

  • การเดินสายไฟ ควรใช้สีสายไฟให้ถูกต้องตามมาตรฐาน เพราะถ้าสายไฟชำรุดเสียหายหรือมีเหตุขัดข้องจะสามารถตรวจเช็กได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
  • จุดต่อสายไฟ เป็นบริเวณที่ต้องตรวจเช็กว่า มีการขันสายไฟแน่นพอหรือไม่ หากพบว่าจุดต่อสายไฟหลวม และพันฉนวนไม่เรียบร้อย ให้ดำเนินการแก้ไขใหม่ทันที
  • ฉนวนของสายไฟ ไม่ควรมีรอยไหม้หรือลักษณะแตกกรอบ หากตรวจพบการชำรุดเสียหายให้รีบเปลี่ยนสายใหม่โดยเร็วที่สุด
  • สายไฟบริเวณใต้หลังคา เป็นจุดที่อาจถูกกัดแทะจากหนูได้ ดังนั้นควรจัดสายไฟอยู่ในท่อร้อยสายไฟ เพื่อป้องกันความเสียหายจากหนูแทะและหลังคารั่ว
  • สายไฟบริเวณผนัง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและง่ายต่อการดูแล ควรตีกิ๊บจัดเก็บสายไฟในบริเวณนี้

เนื่องจากปลั๊กไฟเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างแหล่งจ่ายไฟฟ้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ทำให้บริเวณนี้เป็นอีกจุดที่ต้องหมั่นเช็กว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่? เพื่อให้ผู้ใช้งานปลอดภัยจากการถูกไฟดูด ไฟรั่ว หรือไฟช็อต โดยมีวิธีตรวจเช็กด้วยตัวเองง่าย ๆ ดังนี้

  • ทดสอบด้วยการเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าในแต่ละจุด
  • ซื้ออุปกรณ์ตรวจเช็กไฟมาใช้ในการตรวจสอบ เพื่อความรวดเร็วและปลอดภัย
  • กรณีที่มีความเชี่ยวชาญให้ถอดหน้ากากปลั๊กออก เพื่อเช็กสายไฟว่ามีการเดินไฟครบทั้ง 3 เส้นหรือไม่ แต่ก่อนเช็กควรสับสวิตช์เบรคเกอร์ลงทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย

สวิตช์ไฟเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านที่ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ เพราะเป็นตัวควบคุมแสงสว่างภายในบ้าน ฉะนั้นควรตรวจว่าสวิตช์ไฟทุกดวงทั้งภายในและภายนอกบ้านสามารถใช้งานได้ทุกจุดจริง ด้วยการลองเปิด-ปิดสวิตช์ไฟและขณะทดลองต้องไม่ฝืดหรือค้าง ส่วนบริเวณฝาครอบสวิตช์ต้องปิดสนิทไม่มีรอยแตก ที่สำคัญต้องติดตั้งสวิตช์ไฟในบริเวณที่ไม่มีความชื้นและพ้นจากระดับน้ำท่วมถึง

เนื่องจากปัญหาไฟรั่วส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านเป็นประจำเพื่อค้นหาความผิดปกติ หากตรวจพบความผิดปกติให้รีบทำการแก้ไขในทันที โดยมีวิธีตรวจสอบเช็กไฟฟ้ารั่วภายในบ้านดังนี้

  • สังเกตจากมิเตอร์ไฟฟ้า ด้วยการถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทุกชิ้น หากมิเตอร์มีการหมุนแสดงว่ามีกระแสไฟรั่ว
  • ใช้ไขควงวัดไฟแตะลงบนอุปกรณ์ที่เสียบปลั๊กไว้ หากมีไฟขึ้นแสดงว่ามีกระแสไฟรั่ว

หากเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เวลาเปิดใช้อาจทำให้เกิดปัญหาไฟช็อตหรือไฟฟ้าลัดวงจรได้ ดังนั้นให้ตรวจสอบว่าเมื่อเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลาย ๆ เครื่องพร้อมกันจะไม่เกิดเหตุการณ์ไฟตกหรือรั่ว

แชร์สัญญาณเตือนอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน มีความเสี่ยงเกิดไฟรั่ว

นอกจากปัญหาไฟรั่วเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แล้วยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เจ้าของบ้านต้องสิ้นเปลืองเงินไปกับค่าไฟที่ไม่ได้ใช้งาน แม้จะมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านตามคำแนะนำข้างต้นเป็นประจำ การรู้จุดสังเกตสัญญาณเตือนว่ามีไฟรั่วในบ้านจะช่วยลดความเสียหายได้ ส่วนจะมีจุดสังเกตอะไรบ้าง? วันนี้  YLN Electric มีคำตอบมาฝาก

      1. เครื่องตัดไฟทำงานบ่อยผิดปกติ
          หากลองสำรวจการทำงานของเบรกเกอร์แล้วพบว่าทำงานได้ดีตามปกติ
          แต่ปรากฏว่าเบรกเกอร์ตัดไฟบ่อย ๆ ให้สันนิษฐานว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วที่จุดใดจุดหนึ่งภายในบ้าน
      2. ค่าไฟสูงผิดปกติ
          ตรงจุดนี้สามารถสังเกตได้ด้วยการจดเลขมิเตอร์และปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมด โดยไม่ต้อง
          สับคัตเอาต์ลง หากพบว่าแผ่นจานที่มิเตอร์ยังคงหมุนตามปกติ นั่นแสดงว่ามีไฟรั่ว
      3. ลองสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วถูกไฟดูดอ่อน ๆ
          โดยสาเหตุของการเกิดไฟดูดมาจากไฟฟ้ารั่วในวงจรไฟฟ้า ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือปลั๊ก
          หรือระบบไฟของบ้านไม่ได้ต่อสายดิน ดังนั้นถ้าพบความผิดปกติให้ปฏิบัติดังนี้

          3.1 เช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใช้งานก่อนว่ามีการชำรุดเสียหายหรือไม่ หากพบจุดที่ชำรุดให้แจ้ง
          ผู้เชี่ยวชาญเพื่อซ่อมแซมทันที

          3.2 กรณีเช็กปลั๊กและระบบไฟภายในบ้านแล้วพบว่า ไม่มีการต่อสายดินมาก่อน แนะนำให้รีบจ้างช่างมาติดตั้ง
          สายดินเข้าตู้เมนให้ครอบคลุมทั้งบ้าน เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นภายในวงจร

          3.3 แต่สำหรับบ้านเก่าที่ไม่มีทั้งสายดินและเครื่องกันดูดไฟ นอกจากการต่อสายดินแล้วสามารถเพิ่มความ
          ปลอดภัยในบ้านด้วยวิธีตามนี้

  • เปลี่ยนเบรกเกอร์เมนเป็นแบบกันไฟฟ้าดูดและกันไฟฟ้ารั่ว
  • ติดตั้งเบรกเกอร์ย่อยแบบกันไฟฟ้าดูดและกันไฟฟ้ารั่วตามจุดของวงจรย่อยที่ต้องการ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ และเต้ารับไฟฟ้า เป็นต้น
  • เปลี่ยนเฉพาะตู้เมนไฟฟ้าให้เป็นแบบที่รองรับการติดตั้งสายกราวด์ ก่อนติดตั้งหลักดินพร้อมเดิน
    สายกราวด์ไปยังวงจรที่ต้องการ
  • เปลี่ยนสายไฟฟ้า ตู้เมนไฟฟ้า และเบรกเกอร์ใหม่ทั้งหมด

      4. อุณหภูมิในบ้านสูงผิดปกติ เพราะมีการไหลเวียนไฟฟ้าลงสู่พื้นดินผ่านวัสดุที่นำไฟฟ้า จนทำให้เกิดความร้อน
          มากกว่าที่ควรจะเป็น แนะนำให้รีบปิดระบบไฟทั้งหมด แล้วเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและซ่อมแซมทันที

ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพดีจาก YLN Electric

เพื่อให้บ้านของเราเป็นพื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง นอกจากการตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้านเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเป็นสาเหตุของไฟไหม้ การเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านคุณภาพดีได้มาตรฐานเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
ในวันนี้ YLN Electric ในฐานะร้านขายส่งอุปกรณ์ไฟฟ้าจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ จะมาแนะนำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ควรซื้อไว้ใช้งานที่บ้านกัน

มิเตอร์ไฟฟ้าถือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านขั้นพื้นฐานที่ทุกบ้านต้องมี เพราะมิเตอร์ไฟฟ้ามีหน้าที่วัดแรงดันและกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวนับ (Metering element) ก่อนแปลงพลังงานไฟฟ้าให้เป็นหน่วยไฟฟ้า (kilowatt-hours) เพื่อให้ง่ายต่อการคิดคำนวณค่าไฟของการไฟฟ้า

เนื่องจากทุกบ้านมีการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านที่เกี่ยวกับน้ำและความร้อน เช่น ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ เตาไมโครเวฟ เตารีด และเครื่องซักผ้า เป็นต้น ทำให้ต้องติดตั้งสายดินเพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากการใช้งานไฟฟ้า เพราะสายดินทำหน้าที่ระบายกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่รั่วไหลออกนอกวงจรลงสู่พื้นดินนั่นเอง

เต้ารับและเต้าเสียบเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่พบเห็นได้ทุกบ้าน เพราะตัวเต้ารับทำหน้าที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าในบ้าน เมื่อต่อเต้ารับเข้ากับเต้าเสียบจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านที่เป็นเจ้าของเต้าเสียบทำงานได้ตามปกติ เช่น ต่อเต้าเสียบของพัดลมเพื่อเปิดใช้งาน หรือเสียบปลั๊กไมโครเวฟเข้ากับเต้ารับเพื่ออุ่นอาหาร เป็นต้น

หลอดไฟ LED หรือหลอดประหยัดพลังงาน เป็นไอเท็มสำคัญที่หลายบ้านเลือกใช้ นอกจากช่วยเซฟค่าไฟในแต่ละเดือน เพราะปล่อยความร้อนน้อยลงกว่าหลอดไฟแบบเดิม แต่หลอด LED ยังให้แสงสว่างที่มากขึ้นและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองกับค่าหลอดไฟอีกด้วย

ฟิวส์เปรียบเสมือนอุปกรณ์นิรภัยที่ทำหน้าที่ตัดกระแสไฟส่วนเกินจากอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ทำให้ไม่ต้องคอยกังวลอันตรายจากกระแสไฟรั่ว ไฟช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจร ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับวงจรไฟฟ้า อย่าลืมเลือกซื้อฟิวส์ที่ได้มาตรฐานมาใช้งาน

สำหรับเซอร์กิตเบรกเกอร์หรือเบรกเกอร์ มีหน้าที่ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือป้องกันความเสียหายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน เพราะถ้าตรวจพบความผิดปกติในวงจรไฟฟ้าตัวเบรกเกอร์จะทำการตัดกระแสไฟฟ้าทันที

สายไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบไฟฟ้าที่ถูกใช้ส่งพลังงานไฟฟ้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ทำให้ภายในสายไฟฟ้าเส้นหนึ่งจะประกอบด้วย

  • ตัวนำไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่นำกระแสไฟฟ้า
  • ฉนวนไฟฟ้า ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกมา

จะเห็นได้ว่าการตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านเป็นเรื่องสำคัญที่ทุก ๆ บ้านไม่ควรมองข้าม เพราะการตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้านอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดไฟรั่ว ไฟช็อต และไฟฟ้าลัดวงจรได้ นอกจากการตรวจเช็กระบบไฟฟ้าด้วยตัวเอง การเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านคุณภาพดีและได้มาตรฐานจากร้านขายส่งอุปกรณ์ไฟฟ้า YLN Electric มาใช้งานถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรได้เป็นอย่างดี

โดยหากสนใจซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านคุณภาพดี สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ง่าย ๆ ที่ช่องทางติดต่อด้านล่างนี้ พร้อมมีบริการจัดส่ง Delivery ทันทีในพื้นที่กรุงเทพฯ และทั่วประเทศผ่านบริษัทขนส่งชั้นนำ

LINE : @ylne
โทร : 02-622-4835

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็ปไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก